Theory of Bad Breath
ศาสตร์เกี่ยวกับ "กลิ่นปาก"
ทุกคนเคยคิดมั้ยว่า ระหว่างที่เราใช้ชีวิตประจำวัน เช่น ทำงานที่ออฟฟิศ ออกไปพบปะลูกค้า พูดคุยกับเพื่อนในวงแฮงค์เอ้าท์ หรือแม้แต่กับแฟนหรือคนในครอบครัวก็ตาม เราอาจจะมีกลิ่นลมหายใจหรือกลิ่นปากที่ไม่พึงประสงค์แต่เราเองอาจจะไม่ทันสังเกต หรือแม้แต่เราสังเกตแล้วแต่ก็ไม่รู้ตัว ในขณะที่คู่สนทนา หรือคนรอบตัวของเราก็ไม่กล้าบอกเราเพราะกลัวจะเสียมารยาท เรื่องแบบนี้ถ้าไม่สนิทใจกันจริงๆ ก็คงไม่กล้าพูดตรงๆ แน่นอน

เมื่อรู้อย่างนี้แล้วก็กังวล เลยต้องมีการเช็คกลิ่นลมหายใจของตัวเองบ่อยๆ โดยวิธีที่ทำกันบ่อยที่สุดก็หนีไม่พ้นการ เอามืออังกลิ่นลมหายใจของตัวเองเอาไว้ เพื่อทดสอบว่าเมื่อลองหายใจออกมาแล้วมีกลิ่นไม่พึงประสงค์หรือไม่ แต่ปัญหาของวิธีนี้ก็คือ เราจะไม่ได้กลิ่นปากของเราจริงๆ เหมือนที่คนรอบข้างเราได้กลิ่น เนื่องจากลมหายใจที่ออกมาจากปากตอนเราเอามืออังเอาไว้นั้น เป็นลมหายใจตื้นๆ ไม่เหมือนกับการที่เราหายใจหรือพูดในเวลาปกติที่แก๊สเหล่านั้นจะมาจากใต้ลิ้น หรือบริเวณหลังเหงือกนั่นเอง
เมื่อศึกษาดูแล้วก็พบว่า ทันตแพทย์มักแนะนำวิธีในการเช็คกลิ่นปากและลมหายใจด้วยกัน 3 วิธี คือ
- ใช้จมูกดมเพื่อพิสูจน์จากลมหายใจโดยให้ห่างจากปากหรือจมูกไม่เกิน 5 เซนติเมตร
- ใช้ช้อนถูบริเวณบนลิ้นและนำมาพิสูจน์
- ใช้ฟรอสที่ไม่ได้มีการเคลือบกลิ่นใดๆ ถูบริเวณร่องฟันกราม และนำฟรอสไปทิ้งไว้ในตู้อุณหภูมิ 37 องศา เป็นเวลา 5 นาที
อย่างไรก็ดี การจะทำวิธีเหล่านี้ได้นั้นเป็นเรื่องยุ่งยาก หลายคนจึงเริ่มใส่ใจกับการดูแลสุขภาพช่องปากมากขึ้นเพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดกลิ่นปากระหว่างวันให้มากที่สุด ซึ่งถือว่าเป็นทางออกที่สามารถทำได้ด้วยตัวเองและเพิ่มความมั่นใจให้กับเราได้นั่นเอง การจะทำกิจกรรมในแต่ละวันให้ประสบความสำเร็จ ความมั่นใจถือเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยผลักดันให้ไปถึงเป้าหมายได้ ดังนั้นอย่าลืมใส่ใจสุขภาพช่องปากเพื่อลมหายใจหอมสดชื่นกันนะ
ที่มา: https://www.bbc.com/future/article/20171004-the-biggest-myths-about-bad-breath